บริการควบคุมไวรัส และเชื้อโรค

บริการ พ่นฆ่าเชื้อ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคไวรัส ที่ได้รับมาตราฐานจากประเทศอังกฤษ  แบคทีเรีย เชื้อรา ด้วยเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ระดับสูงที่มุ่งเน้นด้านความปลอดภัยเป็นหลัก โดยพ่นฆ่าเชื้อแบบละอองฝอยในอากาศ เพื่อให้สัมผัสพื้นที่ผิวที่เป็นเชื้อโรคได้มากที่สุด พื้นผิวในอาคารและอากาศที่ดูแล้วรู้สึกสะอาด แต่มันอาจปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่มีไวรัสและเป็นสาเหตุของโรคติดต่อ โดยแพร่กระจายจากคนสู่คนในรูปแบบต่างๆ ดังนี้

• การหายใจเอาละอองจากคนที่ติดเชื้อเข้าไป
• การบริโภคอาหาร หรือน้ำปนเปื้อนเชื้อไวรัส
• ติดจากคนสู่คน หรือ จากสัตว์รบกวนที่เป็นพาหะ เช่น ยุง เห็บ หรือหนู
• สัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัส (เกิดจากการปนเปื้อน)

เรามักได้ยินคำพูดว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” แต่เราไม่อาจป้องกันโรคในอากาศและไวรัสได้อย่างเต็มที่ คนที่ติดเชื้ออาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น ภาวะร่างกายขาดน้ำ ปอดบวมจากเชื้อแบคทีเรีย และการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนวัยหนุ่มสาวหรือผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม มีหลายวิธีที่จะป้องกันไม่ให้คุณและคนที่คุณรักได้รับโรคร้ายแรงเหล่านี้

วิธีการป้องกัน รับมือ “ไวรัสโคโรน่า” หรือ COVID-19

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “โรคอู่ฮั่น” หรือชื่อที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า COVID-19 (โควิด 19) ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ มีความรุนแรงเทียบเท่ากับโรคซาร์สมากที่สุด ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ องค์การอนามัยโลก ยังไม่สามารถหาที่มาของเชื้ออย่างชัดเจนได้ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากเนื้อสัตว์ป่าที่ซื้อขายอยู่ และปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้แล้ว จากการถูกไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของคนที่ป่วย ดังนั้น เราควรดูแลตนเองเพื่อให้ร่างกายห่างไกลจากเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยมีวิธีการรับมือ ดังนี้

1. เชื้อไวรัสนี้ติดต่อผ่านทางลมหายใจ สารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน
2. เชื้อไวรัสโคโรน่าติดต่อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ควรทานแบบสุกเท่านั้น
3. ควรทานอาหารที่สุกแล้ว งดอาหารดิบ และเนื้อสัตว์ป่า
4. หมั่นล้างมือหรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์
5. ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่ไอ
6. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และมีมลภาวะเป็นพิษ
7. งดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงโรคระบาด
8. ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก ถ้าไม่จำเป็น
9. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ฯลฯ
10. ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคือ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์ทันที!!

ทำไมคุณต้องใช้บริการ A.K.J Continental Service

• ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อจากคนสู่คนในพื้นที่ปิด
• สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทำให้เกิดความสบายใจ

มีการดำเนินการในช่วงเกิดการระบาดของโรคต่างๆ

การเตรียมพื้นที่ก่อนรับบริการพ่นฆ่าเชื้อ

ขั้นตอนที่ 1 : ทางผู้รับบริการควรเก็บสิ่งของที่ไม่จำเป็น และอาหารต่าง ขนมคบเขี้ยว ภาชนะบรรจุอาหารให้อยู่สถานที่มิดชิด หรือมีสิ่งปกคลุม

ขั้นตอนที่ 2 : นำคนและสัตว์เลี้ยง (ถ้ามี) ออกจากบริเวณที่จะทำการปฎิบัติงานเพื่อความไม่ประมาท

ขั้นตอนที่ 3 : ก่อนดำเนินการฆ่าเชื้อในอากาศ ลูกค้าจะได้รับคำแนะนำให้ปิดคลุมเครื่องใช้ไฟฟ้าและปิดระบบระบายอากาศ การฆ่าเชื้อโรคในอากาศจะใช้วิธีการพ่นละออง เพราะสามารถกระจายน้ำยาฆ่าเชื่อที่มีอนุภาคขนาดเล็กเข้าสู่บริเวณที่ยากต่อการเข้าถึงอย่างบริเวณมุม บนกำแพง และพื้น

ขั้นตอนที่ 4 : จะต้องปิดบริเวณที่ได้รับการฆ่าเชื้ออย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ก่อนที่จะเปิดเพื่อระบายอากาศต่อไป

ขั้นตอนที่ 5 : เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อทำการระบายกลิ่น อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนทำงานตามปกติ

ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบคุมไวรัสและเชื้อโรค หรือวิธีทำให้สุขภาพและความปลอดภัยในพื้นที่ของคุณเพิ่มมากขึ้น Call Center : 02-030-0663 หรือ 093-692-6952 

(เพิ่มเติม…)

คุณภาพ เวคโทธอร์ รุ่นต่างๆ ผ่านมาตรฐานระดับโลกทั้งหมด

• CB Report
• acc. IEC 60.335-259 International Standard ปลอดภัยต่อชีวิต/สุขภาพมาตรฐานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

• กฎหมาย RoHS ลดการใช้โลหะหนัก
• Chrome-6 declaration ไม่เป็นสารก่อมะเร็ง
• มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) 1955-2551
• ไม่ปล่อยคลื่นรบกวนเครื่องมืออิเลคโทรนิคอื่นๆ
• ประสิทธิภาพ
• รายงานผลทดสอบจากมหาวิทยาลัย
• รับประกัน 2 ปี

อายุการใช้งานของหลอด

ฟิลิปส์ ผลิตหลอด UV-A ออกมาต่างกัน 4 ชนิด…

Basic        คือ หลอดที่ดีกว่าคู่แข่งขันในเอเชีย

Standard  คือ หลอดที่มีคุณภาพเดียวกับคู่แข่งขันในยุโรป

Master      คือ หลอดที่มีคุณภาพสูงกว่าคู่แข่งขันในยุโรป

Long-life  คือ หลอดระดับพรีเมี่ยม ที่เอ็นซิสเท็กส์เป็นตัวแทนจำหน่านในเอเชีย

ห้ามใช้ – เครื่องดักแมลงแบบช็อต

• แมลงแตกกระจายเป็นส่วนๆจากเครื่องไฟดักแมลงแบบช็อต
• แมลงที่ตายแล้วมีน้ำหนักน้อยกว่า 0.01 กรัม, ทำให้ปลิวไปในอากาศได้ง่าย
• แมลงที่ตายแล้วเต็มไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์จำนวนมาก
• ตะแกรงช็อตเป็นสาเหตุให้คนเป็นโรคปอด, โรคหืด, หลอดลมอักเสบ, และอื่นๆ
• เครื่องช็อตทำให้เกิดกลิ่นเหม็นไหม้
• เครื่องช็อตกินไฟมากกว่า
• เครื่องช้อตทำให้เกิดประกายไฟ และยิ่งกว่านั้นคือการรบกวนกระแสไฟ
• สรุป: หลีกเลี่ยงการใช้ไฟดักแมลงแบบช็อตในพื้นที่เตรียมอาหาร, จัดเก็บ หรือรับประทานอาหารและในที่สาธารณะ

บัซเซิร์ด แอลอีดี

ฟัลคอน แอลอีดี

เวคโทธอร์  ไอ-แทรป 50 อี

ชีวิตความเป็นอยู่ของปลวก
ปลวกเป็นแมลงที่มีชีวิตความเป็นอยุ่แบบสังคม มักอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ภายในนรัง โดยทั่วไปมีนิสัยไม่ชอบแสงสว่าง ชอบที่มืด และอับชื้น ประชากรปลวกมีการแบ่งแยกหน้าที่การทำงานออกไปตามวรรณะต่างๆ รวม 3 วรรณะคือ

1. วรรณะสืบพันธุ์ หรือแมลงเม่า ประกอบด้วยตัวเต็มวัยที่มีปีก มีทั้งเพศผู้และเพศเมีย ทำหน้าที่สืบพันธุ์และขยายพันธุ์ โดยจะบินออกจากรังเมื่อมีสภาพอากาศเหมาะสม จับคู่กันแล้วสลัดปีก ผสมพันธุ์ จากนั้นจะหาพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อวางไข่
2. วรรณะกรรมการ หรือปลวกงาน เป็นปลวกตัวเล็กที่พบเห็นกันมาก โดยทั่วไปมีสีขาวนวล ไม่มีปีก ไม่มีเพศ ไม่มีตา ใช้หนวดเป็นอวัยวะรับความรู้สึก คลำทาง ทำหน้าที่เกือบทุกอย่างภายในรัง เช่น หาอาหารมาป้อนราชินี ราชา ตัวอ่อนและทหาร ซึ่งจะไม่หาอาหารกินเอง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สร้างรัง ทำความสะอาดรัง ดูแลไข่ เพาะเลี้ยงเชื้อรา และซ่อมแซมรังที่ถูกทำลาย
3. วรรณะทหาร เป็นปลวกที่มีหัวขนาดใหญ่ สีเข้ม มีโครงสร้างผนังลำตัวที่แข็งแรงกว่าในวรรณะอื่น มีกรามขนาดใหญ่ซึ่งดัดแปลงไปเป็นอวัยวะคล้ายคีมที่มีปลายแหลมคมสำหรับใช้ในการต่อสู้กับศัตรูที่มารบกวนสมาชิกภายในรัง ไม่มีปีก ไม่มีตา ไม่มีเพศ บางชนิดจะดัดแปลงส่วนของหัวให้ยื่นยาวออกไปเป็นงวงที่สามารถผลิตสารที่มีลักษณะเหนียวสำหรับพ่นไปติดตัวศัตรู ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ หรืออาจทำให้ตายได้

นิเวศวิทยาของปลวก
สภาพความเป็นอยู่ หรือสภาพทางนิเวศวิทยา รวมถึงอุปนิสัยในการกินอาหารของปลวก แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดและประเภทของปลวก ซึ่งสามารถจำแนกอย่างกว้าง ๆ เป็น 2 ประเภท โดยใช้แหล่งที่อยู่อาศัยเป็นหลักได้ ดังนี้

ปลวกที่อาศัยอยู่ในไม้ ปลวกประเภทนี้ตลอดชีวิตจะอาศัยและกินอยู่ภายในเนื้อไม้ โดยไม่มีการสร้างทางเดินมาติดต่อกับพื้นดินเลย

ปลวกไม้แห้ง ปลวกชนิดนี้อาศัยอยู่ในไม้ที่แห้ง หรือไม่ที่มีอายุการใช้งานมานาน และมีความชื้นต่ำโดยปกติมักจะไม่ค่อยเห็นตัวปลวกชนิดนี้อยู่นอกชิ้นไม้

ปลวกไม้เปียก ปลวกชนิดนี้มักอาศัยและกินอาหารอยู่ภายในเนื้ิอไม้ของไม้ยืนต้นหรือไม่ท่อนซุงล้มตายที่มีความชื้นภายในเนื้อไม้สูงปลวกที่อาศัยอยู่ในดิน

ปลวกประเภทนี้จะอาศัยอยู่ในดิน แล้วออกไปหาอาหารที่อยู่ตามพื้นดินหรือเหนือพื้นดินขึ้นไปโดยส่วนใหญ่จะทำท่อทางเดินดินเพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้น และป้องกันอันตรายจากศัตรูภายนอกจำแนกเป้น 3 พวก คือ

ปลวกใต้ดิน เป็นปลวกที่อาศัยและทำรังอยู่ใต้ดิน มีลักษณะของการเข้าทำลายไม้และที่อยู่อาศัยเฉพาะเจาะจงไปแต่ละสกุล เช่น ปลวกในสกุล Coptotermes, Microtermes, Ancistrotermes และ Hypotermes เป็นต้น

ปลวกที่อยู่ตามจอมปลวก เป็นปลวกที่สร้างรังขนาดกลางถึงขนาดใหญ่อยู่บนพื้นดิน เช่น ปลวกในสกุล Globitermes,Odontotermes และ Macrotermes เป็นต้น ลักษณะของรังแต่ละสกุลจะแตกต่างกันไป ผู้ที่มีความชำนาญสามารถจำแนกชนิดเบื้องต้นได้จากรูปร่าง ขนาด และลักษณะส่วนประกอบของรังปลวก

ปลวกท่ีอยู่ตามรังขนาดเล็ก เป็นปลวกที่สร้างรังขนาดเล็กอยู่บนดินหรือเหนือพื้นดิน เช่น ตามกิ่งไม้ ต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรือโครงสร้างอื่น ๆ ภายในอาคาร เช่น ปลวกในสกุล Microcerotermes, Termes, Dicuspiditermes, Nasutitermes และ Hospitalitermes เป็นต้น ลักษณะของรังปลวกประเภทนี้ก็แตกต่างกันไปในแต่ละสกุลสามารถใช้เป็นข้อมูลในการจำแนกชนิดได้เช่นกัน

แหล่งอาหารของปลวก จำแนกออกเป็น 4 ประเภท คือ

1. ใช้ (Wood)
2. ดิน และฮิวมัส (Soil and Humus)
3. ใบไม้และเศษจากพืชที่ทับถมกันอยู่บนพื้นดิน (Leaves and Litter)
4. ไลเคน และมอส (Lichen and Moss)

ปลวกส่วนใหญ่จะกินอาหารประเภทเนื้อไม้ เปลือกไม้ เศษไม้ ใบไม้ หรือวัสดุอื่น ๆ ที่มีเซลลูโลสเป็นองค์ประกอบ โดยในระบบทางเดินอาหารของปลวกจะมีสัตว์เซลล์เดียว คือ โปรโตซัว ในปลวกขั้นต่ำหรือจุลินทรีย์ ได้แก่ แบคทีเรีย และเชื้อรา ในปลวกชั้นสูง ซึ่งจะทำหน้าที่ผลิตเอนไซม์ช่วยในการย่อยอาหารประเภทเซลลูโลส หรือสารประกอบอื่น ๆ ให้เป็นกลายเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายปลวก

• ทางเดินปลวกบนกำแพง – ปลวกใต้ดิน จะสร้างทางเดินจาก ดิน หรือเศษสิ่งสกปรกไปยังแหล่งอาหาร มักพบบริเวณกำแพงด้านนอกหรือด้านใน ที่เป็นจุดเข้าสู่อาคาร
• ฝูงแมลงเม่า – แมลงเม่า มักเป็นสัญญาณแรกที่สามารถสังเกตเห็นได้ และสัญญาณต่อมาคือ เศษปีกแมลงเม่าที่ตกหล่อนบนพื้น แม้พวกมันจะหายไปหลังจากผสมพันธุ์แล้ว แต่เศษปีกของพวกมันก็เป็นสัญญาณว่า มีฝูงปลวกอาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ
• เสียงกลวงในไม้ – ปลวกมักกินไม้จากด้านใน เหลือไว้แต่เปลือกไม้บางๆ ด้านนอก ดังนั้นเมื่อคุณเคาะบริเวณที่เสียหาย จะได้ยินเสียงกลวง (รู้สึกเหมือนกระดาษ) เนื่องจากชั้นไม้ด้านในเกือบทั้งหมดถูกปลวกกัดกินไปจนหมดแล้ว
• ประตู หน้าต่าง ที่ฝืดหรือเปิดยาก – ปลวกจะสร้างสิ่งแวดล้อมจากมูลหรือโคลนของมันเพื่อใช้คลุมตัว กักเก็บความร้อน และความชื้น ส่งผลให้ประตูหรือหน้าต่างไม้เกิดบวมขึ้น และเปิดปิดยาก
• อุโมงค์ในไม้ – หรือ “ทางเดินปลวก” แต่อาจมองเห็นได้ค่อนข้างยาก
• มูลปลวก – หลังจากกินไม้แล้ว ปลวกไม้แห้งจะทิ้งมูลสีน้ำตาลไว้ มูลเหล่านี้มักพบอยู่ใต้ไม้ที่ถูกกัดกิน

แมลงเม่า (Alates) จริงๆแล้วคือ ‘ปลวก’ ที่มีปีก อยู่ในวรรณะสืบพันธุ์นั่นเอง ซึ่งในหน้าฝนจะเป็นช่วงที่ แมลงเม่า จะออกมาเล่นไฟเป็นพิเศษเพราะเป็นฤดูผสมพันธุ์ของพวกมัน ช่วงแรกนี้ปลวกวรรณะสืบพันธุ์รองจะยังไม่เป็นแมลงเม่า ปลวกพวกนี้อยู่ในรังอยู่แล้วและมีหน้าที่คอยเป็นพ่อแม่รังเมื่อพ่อหรือแม่รังปัจุบันตายไป และเมื่อรังปลวกมีอายุมากขึ้นประมาณ 3-5 ปี หรือรังปลวกเริ่มคับแคบจากขนาดที่ใหญ่ขึ้น แม่รัง ( นางพญาปลวก ) จะผลิตปลวกวรรณะสืบพันธุ์รองออกมาจำนวนมากและยอมให้ปลวกพวกนี้มีปีกมีตาและมีระบบสืบพันธุ์ที่สมบูรณ์และให้บินออกจากรังในวันที่เหมาะสมเพื่อสร้างอาณาจักรใหม่

วิธีการสังเกตุบ้านที่มีปลวกที่จะเป็นแมลงเม่ามีดังนี้
โดยปกติทั่วไปทางเดินปลวกที่พบในบ้านที่ถูกปลวกเข้าทำลายจะเป็นอุโมงทางเดินที่ปิดมิดชิด ทางเดินเรียบๆ ยื่นหลบสาตตาเมื่อเขี่ยหรือทำลายทางเดินเท่านั้นถึงจะเจอปลวก แต่รังปลวกที่จะเตรียมส่งแมลงเม่าออกจากรังนั้น เขาจะทำจะงอยทางเดินออกมาเล็กน้อยและจะทำรูไว้โดยไม่ปิดรูนี้ในช่วงที่แมลงเม่าบิน รูนี้เองที่จะส่งแมลงเม่าทั้งหมดออกจากรัง และรูนี้มีมีประชากรปลวกทหารเฝ้ากันอย่างหนาแน่น เมื่อเขี่ยหรือทำลายรูดังกล่าวจะพบปลวกทหารจำนวนมาก และอีกไม่นานเหล่าปลวกงานจะซ่อมแซมส่วมที่เสียหายทันที